Saturday, January 20, 2007

blog tag

เพิ่งจะมาโดนเพราะท่านแม้ว(ไม่เหลี่ยม)เล่นกวาดเอาง่ายๆซะงั้น...
ไหนๆก็ไหนๆเล่นหน่อยละกันช่วยเพิ่มยอดให้แม้ว..
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรก็ไปอ่านในwikiหรืออ่านฉบับย่อจากแม้วละกันนะ

1. เราเป็นเด็กที่คลุกคลีกับกิจกรรมบันเทิงตั้งแต่สมัยอนุบาล ไปดูคอนเสิรต์ครั้งแรก
ไม่แน่ใจว่าเป็นรอยัล สไปรท์ หรือ นันทิดา อัลบั้ม '27 พอยุคนี้เกิด
กระแส '70s, '80s rewind ขึ้นมาก็รู้สึกอินมาก(จริงๆเกิดอาการ
rewind ก่อนหน้านั้นซักสองปีแล้วแต่เขินไม่กล้าแสดงออก)
พอมองซ้ายขวาคนที่อินกับการ rewind ด้วยกันไหงมีอายุพลัสๆทั้งนั้นเลย
รู้สึกแก่ก่อนวัยอันควรแฮะ.. - -"

2. ตอนเข้าอนุบาลครั้งแรกแสดงจุดยืนที่ต้องการจะใกล้ชิดครอบครัวอย่าง
แข็งขันคือชั้นจะต้องเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ให้ได้ แล้วงอแงไม่ยอมไปโรงเรียน
จนพ่อแม่ปวดกบาลต้องยอมให้พักการเรียนหนึ่งปี(มาเรียนก.ไก่ผ่านโต๊ะ
กินข้าวตัวเล็กๆที่มันมีตัวอักษร เคยเห็นกันรึเปล่า?) จากนั้นภาษาพัฒนา
แบบพลวัตโดยการดูหนัง(อ่านไทยรัฐแล้วพลิกกลับจากด้านหลังสองที..แต่ก่อน
มันคือหน้าบันเทิงน่ะ..)และฟังเพลง

3. เรื่องที่สามนี่ถ้าคนที่รู้จักกันคงไม่มีทางเชื่อ...คือว่าตอนเด็กๆเราเป็น
คนที่อมข้าว..กินอะไรยากมาก..กินนมได้อย่างเดียว..
ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่
จากอาการตรอมใจข้าวปลาไม่กินเปลี่ยนแปลงมาเป็นคนที่กินทุกอย่าง
ขีดจำกัดน้อยที่สุดในครอบครัวทำให้เห็นผลลัพธ์เกินที่พ่อแม่คาดหมาย

4. เรามีความสามารถในการจำแนกหน้าคนต่ำมากกว่าจะรู้ว่าฉัตรชัย
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่น้องบรรลือฤทธิ์ก็ใช้เวลานานมากมาย
พวกเพื่อนๆแฝดรวมถึงญาติพี่น้องที่เป็นแฝดทั้งหลายเราไม่เคยแยกแยะ
ได้ว่าใครเป็นใครเรียกมั่วซั่วตลอด..แต่ก่อนเคยวิกฤตหนักถึงขั้นที่ว่า
มีผู้หญิงเดินมารับที่โรงเรียนแล้วชั่งใจอยู่นานมากว่าเอ๊ะคนนี้ใช่หมะม๊า
เรารึเปล่า..ใช่/ไม่ใช่..ใช่/ไม่ใช่.. - -"
(ถ้าแม่รู้คงน้อยใจ...หรือไม่ก็หาว่าเราบ้าไปแล้ว :P)

5. เรามีแผลเป็นคล้ายไฝที่คิ้วซึ่งเกิดจากการเล่นจอมยุทธ์กันแล้ว
พี่น้องสหายชาวยุทธ์ปล่อยอาวุธเด็ด(ดินสอพอลโลแบบที่เติมไส้ได้
เป็นท่อนๆอ่ะ)โชะๆ!ตรงๆเข้าที่คิ้วตอนนี้ก็ยังไม่หาย...
อาวุธของท่านช่างมีพลังจริงๆ..แม้ว่าจะไม่ตาบอดทางกายภาพ
แต่ดูเหมือนเราจะต้องมนต์ดำอาวุธร้ายตาบอดทางจิตใจเรื่อยมา - -"

ไม่รู้จะ tag ใครต่อดีเพราะดูเหมือน เพื่อนทั้งหลายไม่ค่อยว่าง
ลอง tag คุณพี่ คุณน้องและคุณเพื่อนอีกคนดูละกัน

Labels:

Thursday, January 18, 2007

Quote of the week

It ain't what you don't know
that gets you in trouble;
it's what you know for sure
that ain't so.

Mark Twain

Labels:

Wednesday, January 10, 2007

stoppage time

สองสามวันนี้คงมีคนร่วมไว้อาลัยแด่ครูจูหลิงมากมาย ขอมีส่วนร่วมด้วยคน
พอดีไปอ่านเจอบทความนี้เสียดสีดี ลองอ่านกันดู

stoppage time by Tulsathit Taptim


A prayer of thanks and admiration for Khru Juling
My life will go on and probably in a day or two I may forget all about you.

I will go partying, play tennis, and, on the weekend, turn into a soccer maniac like I always do. My attention will soon switch over to a hundred other "bigger" things - Thaksin Shinawatra, the coup and its consequences, the stock market, the Foreign Business Act and the 100 people assigned to write Thailand's new charter.


อ่านจบแล้วเกิดความสงสัยว่านั่นสิ เราจะทำอะไรได้บ้างล่ะ...
ลองหาๆดูแต่ไม่เจอคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองแต่เจอบทสัมภาษณ์คุณโสภณ สุภาพงษ์จาก aday
เล่มเก่าแล้วปกอะไรก็ไม่รู้ ใครจำได้ช่วยบอกที (จริงๆอาจจะมีอยู่แล้วแต่ดันอ่านแต่คอลัมน์บันเทิง - -")
อ่านแล้วรู้สึกว่าเข้าใจปัญหามากขึ้นอีกนิดนึงตอบคำถามบางอย่างที่คาใจได้
ต้องค้นหาต่อไปว่าจะทำอะไรได้บ้าง.....

Labels:

Monday, January 08, 2007

มากเกินไป

สติ ........ มีมากเท่าไรยิ่งดี มีแต่คุณ.............ไม่มีโทษ
ศรัทธา ...... มีมากเกินไป ขาดปัญญา .............กลายเป็นงมงาย
ปัญญา .......มีมากเกินไป ขาดศรัทธา .............กลายเป็นทิฏฐิมานะ (หลงตัวเอง)
สมาธิ ........มีมากเกินไป ขาดปัญญา............. กลายเป็นโมหะ
ปัญญา .......มีมากเกินไป ขาดสมาธิ...............กลายเป็นฟุ้งซ่าน
วิริยะ.........มีมากเกินไป ขาดสมาธิ...............กลายเป็นเหน็ดเหนื่อย
สมาธิ ........มีมากเกินไป ขาดวิริยะ ..............กลายเป็นเกียจคร้าน

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะสองบรรทัดสุดท้ายสลับไปมา.....
อีกแบบที่เป็นบ่อยๆคือฟุ้งซ่านโดยที่ไม่ได้มีปัญญาเลยซักนิด
ใครรู้วิธีช่วยทำให้สมดุลช่วยชี้แนะด้วย - -"

ปล.ได้มาจาก w/b 82 ขอบคุณท่านหมูเดจาเวียว ไว้ณ ที่นี้ ^@^

Labels: