Monday, April 03, 2006

การเมืองเรื่องของการเรียนรู้

การเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง 2 เมษา โดย อ.ชัยอนันต์ สมุทรวณิช

....อย่างไรก็ดี การชุมนุมต่อต้านทักษิณอย่างยืดเยื้อโดยสันติ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเชิงคุณภาพอย่างมหาศาล ผู้คนเรือนแสนมีโอกาสเรียนรู้การเมืองอย่างเข้มข้นในเวลาสั้นๆ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองที่คนได้เรียนรู้จากการมีส่วนร่วมโดยตรง ได้รับข้อมูลข่าวสารความรู้ และความเห็นเกี่ยวกับนโยบายสำคัญทุกๆ ด้าน นับเป็นการเรียนรู้การเมืองทางลัดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศใดๆ ในโลก

ถ้าใครอยากเห็นการปฏิวัติของประชาชนแล้ว ก็ได้เห็นครั้งนี้แหละ คำแถลงการณ์ของแกนนำพันธมิตรฟังดูเหมือนแถลงการณ์ของคณะปฏิวัติ แต่เป็นกระบวนการปฏิวัติของประชาชนที่ประชาชนรับรู้ และมีส่วนร่วมโดยตรง แม้การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ก็ไม่มีลักษณะพิเศษเช่นนี้....

.... หลังการเลือกตั้ง 2 เมษา ได้ ส.ส.ไม่ครบอีก 30 วันต้องมีการเปิดสภา ถ้าพฤษภาเปิดไม่ได้ ระหว่างพฤษภา-มิถุนาคงไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย เพราะต้องมีพิธีเฉลิมฉลองการครองราชย์ประมาณกลางเดือนมิถุนาไปแล้วนั่นแหละ จึงจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก ผมคาดว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นระหว่างกลางเดือนมิถุนาจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม ผมไม่แน่ใจว่าคราวนี้จะสงบสันติเหมือนคราวนี้หรือไม่

ผมดีใจที่คนมาชุมนุมเป็นแสน แต่ไม่มีความรุนแรง นับว่าการเมืองไทยได้ยกระดับขึ้นไปสูงมาก เป็นบทเรียนที่สำคัญเพราะเป็นการวางมาตรฐานสำหรับการชุมนุมครั้งต่อไป

แต่ที่น่าศึกษาก็คือ จิตใจ และพฤติกรรมของคนอย่างทักษิณ ซึ่งนักจิตวิทยาจะต้องนำมาศึกษาวิเคราะห์ หมอหลายคนสงสัยว่าจะเป็นโรคจิต ผมเห็นว่าทักษิณมีสองโลก โลกแห่งความเป็นจริงกับโลกส่วนตัว ทักษิณอยู่ในโลกส่วนตัวมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริง คนอย่างนี้น่าสงสาร แต่เป็นคนอันตรายหากมีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสาธารณะ.....

=================================

อาจารย์ช่างจบได้แบบเจ็บๆดีจริงๆ

คุณหมอก็พูดคล้ายๆกัน
=================================
วิกฤตคือโอกาส โดย ประเวศ วะสี

ไม่มีครั้งใดที่สังคมไทยตื่นตัวเรียนรู้ถึงขนาดนี้


ปรกติสังคมไทยค่อนข้างเฉยเมยต่อการเรียนรู้ แต่ขณะนี้ไปที่ไหนก็มีแต่คนพูดเรื่องศีลธรรมจริยธรรมเต็มไปหมด เมื่อก่อนพระก็สอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม แต่สังคมไทยก็ไม่ค่อยตื่นตัวเท่าใด แต่คราวนี้มีปัญหาเรื่องผู้ปกครองทำผิดศีลธรรม ซึ่งบางคนก็ว่าขาดทศพิธราชธรรมหรือธรรมของผู้ปกครองทุกข้อ จึงมีความตื่นตัวเรื่องศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรมกันมาก

นอกจากนั้นมีการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตย เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องคอร์รัปชั่น ที่สำคัญคนไทยได้เรียนรู้ว่าอำนาจแก้ปัญหาไม่ได้ ทุกฝ่ายเห็นกันจะ ๆ ว่ารัฐบาลทักษิณมีอำนาจมากที่สุด แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ประสบความติดขัดไปหมด เรื่องนี้ผมเคยเตือนคุณทักษิณตั้งแต่เป็นรัฐบาลใหม่ ๆ ว่าระวังอย่าไปตก “โครงสร้างมรณะ” คือใช้อำนาจในการแก้ปัญหา นอกจากแก้ไม่ได้แล้ว อำนาจอื่นมันจะรุมสะกรัมกลับมาจนตกอยู่ในโครงสร้างมรณะ

ในสังคมสมัยใหม่ที่ซับซ้อนมีปัญหายาก ๆ เชิงโครงสร้างที่แก้ไม่ได้ด้วยอำนาจ แต่ต้องเปิดพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางปัญญาอย่างกว้างขวาง แต่รัฐบาลกลับทำตรงกันข้ามคือปิดพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางปัญญา อะไรที่ปิดกั้นก็จะเดือด

ทุกฝ่ายกำลังเรียนรู้ว่า การที่ทุนขนาดใหญ่เข้ามายึดอำนาจทางการเมืองก็ไม่สามารถปกครองได้ เช่นเดียวกับที่กองทัพและสังคมได้เรียนรู้มาก่อนว่า การที่กองทัพจะยึดอำนาจนั้นไม่ยาก แต่หลังจากนั้นยากสุดกำลัง จนกองทัพก็ไม่ต้องการยึดอำนาจเพื่อปกครองอีกต่อไป

การเรียนรู้ครั้งใหญ่ของสังคมขณะนี้ จะปลุกจิตสำนึกและปลุกจิตวิญญาณของประเทศขึ้น ซึ่งเป็นคุณต่ออนาคตยิ่งนัก
=================================

Comments: Post a Comment